วิธีการปลูกพริกหวานพริกแอปเปิลในช่วงระยะแรกเป็นกิ่งอ่อนจากนั้นจะเปลี่ยนเป็นกิ่งแก่ที่มีความแข็งแต่เปราะหักง่ายมีความสูงประมาณ0.5-1.5เมตรมีรากเจริญในแนวดิ่งลึกประมาณ90-120เซนติเมตรรากแขนงแผ่กว้างออกด้านข้างประมาณ90เซนติเมตรรากใหญ่จะอยู่อย่างหนาแน่นในระดับความลึกประมาณ50-60เซนติเมตร จึงสามารถนำมาเพาะปลูกในสภาพกระถางหรือถุงได้เหมาะกับสภาพพื้นที่ที่น้อยหรือบริเวณข้างบ้านตลอดถึงที่อยู่อาศัยและคอนโดฯที่มีระเบียงอยู่บ้างนิดหน่อยได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะผู้บริโภคที่ต้องการดูแลสุขภาพและไม่แน่ใจว่าพริกหวานที่ซื้อมาจากแหล่งจำหน่ายทั่วไปจะปลอดภัยต่อสุขภาพหรือไม่เพราะที่ผ่านมามักมีข่าวให้ได้รับรู้อย่างต่อเนื่องเรื่องความปลอดภัยในผลผลิตเกี่ยวกับการปนเปื้อนสารเคมี
พริกหวานขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศอบอุ่นความชื้นในอากาศต่ำอุณหภูมิที่เหมาะจะอยู่ที่ประมาณ20-25องศาเซลเซียสฉะนั้นชาวเมืองเช่นกรุงเทพฯที่มีที่น้อยก็สามารถปลูกได้หรือจะปลูกเป็นไม้ประดับในบ้านพักหรือสำนักงานก็สามารถทำได้เช่นกันแถมให้ผลผลิตที่รับประทานได้ด้วย
โดยมีลักษณะผลกลมยาวมีขนาดใหญ่ในผลจะประกอบไปด้วยสารให้ความเผ็ดในปริมาณที่ต่ำโดยทั่วไปผลจะเป็นสีเขียวถ้าแก่บนต้นจะเปลี่ยนเป็นสีแดง บางสายพันธุ์ที่ถูกปรับปรุงพันธุ์อาจจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสีส้มหรือสีม่วงก็มีถ้าสีเขียวจะมีสารคลอโรฟิลล์สีแดงหรือเหลืองจะมีเม็ดสีแคโรทีนอยด์ส่วนสีม่วงจะมีเม็ดสีแอนโธไซยานินและสีน้ำตาลจะเกิดจากการผสมระหว่างคลอโรฟิลล์ไลโคปีนและเบต้าแคโรทีนซึ่งเป็นสารที่ให้คุณต่อร่างกาย
เมล็ดพริกก่อนปลูกให้นำไปแช่ในน้ำอุ่นประมาณ1วันแล้วนำออกมาผึ่งแดดครึ่งวันก่อนแกะเมล็ดพริกออกมาปลูกดินปลูกควรเป็นดินร่วนปนทรายผสมกับปุ๋ยหมักสูตรโพแทสเซียมสูงกว่าไนโตรเจนใส่ลงในกระถางหรือถุงเพาะต้นกล้าด้วยการขุดหลุมลึกประมาณ½นิ้วหย่อนเมล็ดพริกที่เตรียมไว้ลงในหลุมประมาณ3-4เมล็ดกลบดินรดน้ำให้ชุ่มทุกวันเช้าเย็นถุงหรือกระถางต้องมีการระบายน้ำที่ดีนำไปวางไว้ที่บริเวณที่มีแดดส่องถึง
เมื่องอกสูง6นิ้วและมีใบแตกออกมาถอนต้นที่อ่อนแอทิ้งเหลือเฉพาะต้นที่แข็งแรงเพียง1ต้นต่อถุงหรือกระถางบำรุงอีกประมาณ3-4วันแล้วย้ายไปปลูกในถุงหรือกระถางใหญ่ที่เตรียมไว้ในภาชนะปลูกใส่ดินร่วนปนทรายผสมปุ๋ยหมักเช่นเดียวกับที่ใช้เพาะต้นกล้าจากนั้นนำถุงหรือกระถางที่ปลูกไปวางในจุดที่ต้องการโดยเป็นจุดที่มีแสงแดดส่องถึงรดน้ำให้ชุ่มแต่ไม่ถึงกับแฉะทุกวันเช้าและเย็นเมื่อเริ่มติดดอกและออกผลก็รดน้ำแบบวันเว้นวัน ผลรูปทรงและขนาดแตกต่างกันออกไปบางพันธุ์อาจมีเปลือกหนาบางพันธุ์บางมีขนาดกว้างประมาณ1-15เซนติเมตรและยาวประมาณ1-30เซนติเมตรผลแก่ที่เปลี่ยนเป็นสีแดงเหลืองส้มหรือม่วงจะมีปริมาณของวิตามินเอสูงกว่าเดิมถึง10เท่าและมีวิตามินซีสูงกว่า2เท่า.